26 มกราคม 2560
ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่เลือกเสพสื่อ ข่าวสาร เพราะสภาวะสังคมในยุคของผู้เขียนที่มีอายุน้อยลงทุกวัน มีวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีไปไกล และ ไกลขึ้นเรื่อยๆ แต่ดูเหมือนว่าสภาวะจิตใจของ "คน" จะถดถอยลง ผู้เขียนจะไม่หยิบยกสถานการณ์มาให้หมด เพราะคงไม่สามารถจะกล่าวได้ทั้งหมด เนื่องด้วยผู้เขียนมิได้มีความรู้ ความชำนาญ เชี่ยวชาญ และ ไม่ได้เป็นนักวิชาการในแขนงใด ๆ
วันนี้ผู้เขียนรู้สึกถึงความบั่นทอนที่แผ่ซ่านไปถึงจิตใจ เมื่อได้เห็นภาพคนชราในสถานดูแล ซึ่งควรที่จะเป็นสถานที่คนชราพักอาศัยอย่างมีความสุข แต่ภาพที่เห็นนั่นคนชราถูกผู้ดูแลกระทำโดยที่ไม่มีเรี่ยวแรงจะสู้ ผู้เขียนตระหนักว่าไม่ใช่ผู้ดูแลทั้งองค์กรจะปฎิบัติเช่นนั้น เพียงแต่จิตสำนึกของแต่ละบุคคลต่างกัน ถึงกระนั้น ภาพที่เห็นแต่ละครั้งที่ผู้สูงวัยถูกกระทำ ผู้เขียนไม่สามารถจะดูได้จนจบสักครั้งเดียว ได้แต่เห็นแล้วรีบปิดหรือเลื่อนผ่านไป ไม่เพียงแต่สถานที่พักคนชรา แต่แม้กระทั่งลูก หลานยังกระทำได้
มองย้อนกลับมาที่ตัวผู้เขียนเอง ใช่ ผู้เขียนเองเถียง ดื้อ ต่อบุพการี บางครั้ง หรือหลาย ๆ ครั้งหมางเมิน เมินเฉยต่อท่าน แต่ทั้งชีวิตที่มีลมหายใจ ผู้เขียนไม่เคยแม้แต่คิดจะทำร้าย
เมื่อมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคน หรือ สัตว์ ทุกชีวิตมีความคิดที่ต่างกัน มีทะเลาะกันบ้าง มีใช้กำลังต่อสู้กัน ผู้เขียนไม่รู้สึกความบั่นทอนในจิตมากเท่ากับภาพคนชราถูกกระทำ เมื่อภาพการต่อสู้ของสองฝ่ายที่เท่าเทียมกัน มีการโต้ตอบ ไม่ใช่กระทำต่อผู้ที่ไม่มีทางตอบรับแม้แต่จะผยุงตัวเองให้ลุกยังไม่ได้
อีกภาพที่ผู้เขียนไม่สามารถจะดูได้ คือภาพผู้ใหญ่ทำร้ายเด็ก โดยเฉพาะเด็กที่อายุเพียง สามขวบ ทำไปได้อย่างไร...
ยุคที่วัตถุ และ ค่านิยมภาพลักษณ์ภายนอกดูเหมือนจะสำคัญ จนทำให้จิตใจคนถดถอยลงทุกวัน ๆ
ในอดีตผู้เขียนเคยคิดว่า ที่ ที่ เราอยู่ เป็นที่ ที่ปลอดภัย เราเลือกที่จะอยู่ ในที่ ที่ปลอดภัย
แต่ยุคนี้ความคิดของผู้เขียนเปลียนไปแล้วว่า ทุก ๆ ที่ มีอันตรายทั้งนั้น ไม่มี ใครเลยที่ไว้ใจได้แม้กระทั่งคนในครอบครัว เพราะคนในครอบครัวเดียวกันยังคร่าชีวิตกันเอง
แต่...ผู้เขียนมั่นใจว่าครอบครัวของผู้เขียนรัก และไว้ใจกันได้ เสมอ