Life is short then do what brings happiness to life. ชีวิตเราสั้น อะไรทำแล้วมีความสุข ก็ทำไป

Search This Blog

Wednesday, May 22, 2013

ไดอารี่ที่เขียนสอนเรา...

22 พฤษภาคม 2556

นั่งอ่านไดอารี่ สมุดบันทึกเล่มเดียวที่เอาติดมาด้วยจากไทย ในสมุดเล่มนี้เริ่มเขียนเมื่อ 9 กันยายน 2538 จนกระทั่ง 22 พฤษภาคม 2551 ...โอโหไม่อยากจะเชื่อว่าตรงกับวันนี้ในปีนี้ที่หยิบสมุดบันทึกมาอ่าน 17-18 ปีมาแล้ว นานมาก

อ่านไปเรื่อยๆ เราเห็นความอดทน เข้มแข็งของตัวเองมากๆ เพราะมีเรื่องราวบั่นทอนชีวิตเกิดขึ้นหลายอย่าง ไม่ได้หนักหนาสาหัสหากเทียบกับใครหลายคน แต่เป็นสิ่งที่ทำให้เราเข้มแข็ง บอกให้เราเห็นว่าเราใช้เวลาแต่ละวันทำอะไร  และยังบอกอีกว่าเมื่อเวลาผ่าน เห็นอะไรรอบตัวมากขึ้น ทำให้มีปัจจัยในการคิด ตัดสินใจเรื่องราวต่างๆ ได้ดีขึ้น จนในที่สุดช่วงชีวิตที่ดีขึ้น และดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่เฉพาะทางร่างกายและวัตถุ แต่รวมถึงจิตใจด้วย

ตั้งแต่ผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาเดินเส้นทางของเราเรื่องราวบันทึกต่อจากนั้นมีแต่ความสนุกสนานบันเทิง ผู้ชายคนนั้นคือคนนี้ที่ใช้ชิวิตอยู่ด้วยในปัจจุบัน

Wednesday, May 1, 2013

คุณยายขายไม้กวาด


สมัยใหม่คงใช้เครื่องดูดฝุ่นกันหมดแล้วมั้ง ที่ไทยป้าไม่รู้ แต่บ้านป้าไม้กวาดดอกหญ้าไม่เคยเห็น ..........................

ย้อน ไปเมื่อครั้งป้าโอ้ทยังเป็นนักเรียนอาชีวะ ...เรียนพาณิชย์นั่นเอง ป้าอยู่กับแม่ที่หมู่บ้านเล็กๆย่านปทุมธานีใกล้กับโรงงานผลิตเครื่องดื่ม ยักษ์ใหญ่"โค๊ก" วันหนึ่งขณะที่ป้าทำอะไรสักอย่าง (จำไม่ได้แล้ว) อยู่หน้าบ้าน (ทาวน์เฮ้าส์ลักษณะห้องแถวเพราะทุกหลังติดกันเป็นพืด แต่เป็นหมู่บ้าน เพราะมีส่วนเป็นบ้านเดี่ยวเล็กๆ แต่หมู่บ้านนี้พื้นที่น้อย มีอยู่ร้อยหลังคาเรือนได้มั้ง) เวลานั้นเป็นช่วงบ่ายแก่ๆ แดดร้อนมาก คุณยายอายุราวๆ 70 ใส่เสื้อคอกระเช้า และเสื้อแขนสั้นตัวนอกสีหม่นคลุมอีกที เดินกระย่อง กระแย่ง ตัวงอด้วยความชรา บนบ่าแบกไม่กวาดดอกหญ้าแพสวยมาด้วยมัดใหญ่ มีอยู่ราวๆ 10 อัน ใส่งอบขาดๆบังแดด เดินเข้ามาทักป้าโอ้ท

คุณยาย : หนู ซื้อไม้กวาดไว้ใช้สักอันไหม
ป้าโอ้ท : (ถามกลับไปโดยไม่ต้องคิด ด้วยเห็นสภาพผู้สูงวัยเบื้องหน้า) อันละเท่าไรล่ะยาย?

 คุณยายบอกราคา ป้าโอ้ทจำไม่ได้ว่าเท่าไร
 ป้าโอ้ท : ทำไมยายขายถูกจัง แล้วยายแบกมาไม่หนักเหรอ เดินมาจากไหน?

คุณยาย : ยายทำเองหนูไม่ได้ขายเอากำไรมาก ยายอยู่ว่างๆ ไม่หนักหรอก ยายชินแล้ว เดินมาเรื่อยๆ บ้านยายอยู่ด้านหลัง(หมู่บ้าน)นี่เอง
 ป้าโอ้ท : งั้น หนูอุดหนุนยายสองอันก็แล้วกัน (อยากเหมานะ แต่ป้ามีเบี้ยเลี้ยงจำกัด เจียดเบี้ยเลี้ยงที่ต้องใช้ไปโรงเรียนมาอุดหนุน)

 คุณยาย : ขอบใจนะหนูขอให้เจริญๆ

 แล้วคุณยายก็เดินไปบ้านหลังต่อไป ไม่นานคุณยายก็เดินผ่านหน้าบ้านป้าโอ้ทอีกรอบ เผื่อเดินไปทางออกหมู่บ้าน ป้าโอ้ทสังเกตว่าไม้กวาดคุณยายยังปริมาณเท่าเดิม เมื่อคุณยายเดินลับไป ป้าข้างบ้านเดินมาหา

 ป้า : โอ้ทซื้อไม้กวาดแกหรือเปล่า
โอ้ท : ซื้อสองอัน

 ป้า : ยายแกไม่ได้จนนะ บ้านแกรวยมาก บ้านทรงไทยหลังนั้นล่ะของแก ลูกๆ แกก็รวยทุกคน แต่แกเคยทำ เคยเดินขายแกชิน คนเห็นแกแก่ถือไม้กวาดมาขายก็สงสารแก แต่พอรู้ว่าแกรวยก็ไม่ค่อยมีใครซื้อของแกแล้ว
โอ้ท : หรอ ไม่เป็นไรหรอก ยังไงก็ต้องใช้ไม้กวาดอยู่แล้ว (จากนั้นป้าโอ้ทเดินเข้าบ้าน) ......

ส่วนตัวป้าโอ้ท เมื่อตั้งใจทำความดี ตั้งใจให้ ป้าไม่คิดว่า คนรับเขาจะมาหลอก แต่เมื่อรู้ทีหลังว่าเขาหลอก ป้าก็จะไม่คิดเสียดาย หรือ คิดว่าตัวเองโง่ที่ถูกหลอก แต่ป้าจะคิดว่าไม่เป็นไร เราตั้งใจทำ ถ้าทำไปแล้วรู้ว่าเขาหลอก แล้วมาคิดเสียดาย คิดโกรธเคือง ความตั้งใจทำดี ตั้งใจให้จะกลายเป็นความทุกข์ และคนที่ทุกข์ใจก็ไม่ใช่ใครอีก ตัวป้าเอง

การทำบุญกับพระ ป้าจะไม่ทำบุญตามรถรับบริจาคนอกวัด หรือ มีพระมาเดินบิณฑบาตรตามบ้าน เพราะไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง ถ้าจะทำบุญ ไปทำที่วัด บริจาคเงินตู้ในวัด แต่ถ้าครั้งไหนนีกว่าจะทำ ต้องทำ เมื่อทำไปแล้วรู้ภายหลังว่าคนเหล่านั้นปลอม ก็คิดเสียว่า อย่างน้อยก็ทำด้วยความตั้งใจ"ให้" อย่างไรเราก็ได้ทำบุญ"ให้กับมนุษย์" แม้จะเป็นมนุษย์ลวงก็ตาม

 ใครทำอย่างไรก็จะได้อย่างนั้น ป้าเชื่อของป้าแบบนี้